พระผงเพชรพญาธร หลวงปู่หมุน ปลุกเสกออกวัดซับลำใย เนื้อผงว่าน

สุดยอดเมตตามหาเสน่ห์เพชรพญาธรเนื้อผง อ.ตั้ว ศิษย์ลพ.กวย,หลวงปู่หมุน วัดบ้านจานปลุกเสก ของเสน่ห์เมตตาอีกอย่างที่อ.ตั้วสร้างตามตำราลพ.กวย ลป.หมุน วัดบ้านจานปลุกเสก สวยเข้มขลังเนื้อผงสี อ.ตั้วท่านใช้มวลสารผง 108 พระเกจิอาจารย์ที่ท่านสะสมไว้ล้วนๆ ดีทางเมตตามหาเสน่ห์และโชคลาภ อ.ตั้วสร้างตามตำราของหลวงพ่อกวยและพ่อหนูโตมอญ บุนนาค เป็นของดีของวิเศษด้านเมตตาสำหรับผู้ที่ผิดหวังทางด้านความรักใฝ่หา ***มีเคล็ดที่ว่า ก่อนบูชาให้ใส่บาตรอุทิศส่วนกุศลให้แก่หลวงพ่อกวยและพ่อหนูโตมอญ บุนนาค และเทพเพชรพญาธรก่อน พร้อมทั้งค่าครู 6 บาท หรือ 12 บาท เป็นการบูชาครู ***“เพชรพญาธร” เป็นเทพผู้มากเสน่ห์ มากรัก เป็นเทวดารูปหล่อจอมเจ้าชู้ที่ชอบความรื่นเริงบันเทิงใจใฝ่หาความรักอยู่เป็นนิจ ชอบเที่ยวเสาะแสวงหาหญิงงามมาคู่กาย ไม่ว่าจะเป็นเหล่านางฟ้านางสวรรค์ รวมทั้ง มักกะรีผลแห่งป่าหิมพานต์ จนเกิดศึกชิงนางกับเหล่าเทวดา คนธรรมพ์ อยู่เนือง ๆ แต่เพชรพญาธรมีฤทธิ์มากจึงมักชนะคู่ต่อสู้และได้หญิงงามเหล่านั้นไปเชยชมอยู่เสมอ รวมทั้งหากเพชรพญาธรพึงพอใจหญิงใดแล้ว หากได้พูดคุยกับหญิงงามเหล่านั้นก็เหมือนถูกมนต์สะกดต่างก็เชื่อฟังหลงใหล อีกทั้งเพชรพญาธรมีมนตรามหาเสน่ห์ มีเมตตามหานิยมในตน นอกเหนือจากความมักมากในกามารมณ์เพียงอย่างเดียว จึงทำให้การเจรจาพาทีจึงพบแต่ความสำเร็จเสมอ ***เพชรพญาธรโดยรวมๆ แล้วจะมีสองรูปแบบด้วยกัน คือรูปแบบที่เป็นลักษณะกึ่งเทวดากึ่งภูติ มีรูปร่างหน้าตางดงามเป็นที่ดึงดูดใจเพศตรงข้ามยิ่งนัก มักมากในกามารมณ์ เมื่อต้องการสาวใดแล้วก็จะแอบไปหาตอนกลางคืนร่ายมนต์ให้เกิดกามารมณ์จนต้องหลวมตัวเสร็จทุกรายไป ในรูปแบบนี้มักจะทำอยู่ในรูปเครื่องรางเช่นผ้ายันต์ หรือ พระผง แต่ถ้าคนที่ดูไม่เป็นก็จะนึกว่าเป็นพระขุนแผนไปแต่แท้ที่จริงแล้วบางองค์จะเป็นเพชรพญาธร ส่วนอีกรูปแบบหนึ่งจะมีลักษณะคล้ายอวัยวะเพศชาย สายนี้เป็นสายที่เรียนมาจากทางเขมรโบราณเสียมากกว่า ซึ่งต้องมองให้ออกว่าอันไหนคือเพชรพญาธรอันไหนคือปลัดขิก ให้ดูที่เพชรพญาธรจะมีร่างกายมีขาหน้าขาหลังมีหาง บางทีก็ดูเป็นสิงห์ บางทีก็ดูเป็นกิเลน หรือบางทีก็ติดปีกให้ด้วย เพราะในมนต์คาถาจะมีบทหนึ่งที่กล่าวว่า โอมพระเพชรพญาธรเสด็จขจรอยู่บนเวหา กูจะเรียกให้มึงมา…. ก็แปลว่าเพชรพญาธรนั้นบินได้ ในส่วนนี้จะนิยมในกลุ่มของพระเกจิอาจารย์เป็นผู้สร้างเสียส่วนใหญ่ เพราะในยุคสมัยก่อนปลัดขิกนั้นฮิตมากๆ ไล่ตั้งแต่หลวงพ่ออี๋ หลวงพ่อเหลือ หลวงพ่อยิด ล้วนแต่นิยมสร้างปลัดขิกกันจนโด่งดังทั้งนั้น จึงมีพระเกจิบางองค์ได้ทำเพชรพญาธรเป็นรูปปลัดขิกบ้าง แต่เสริมตรงมีขาหน้า ขาหลังมีหางให้ดูมีชีวิตเหมือนเช่นดังสัตว์ มีการเคลื่อนไหว จะได้ดูว่าบินไปหาคนรักไปเรียกคนรักได้ ประมาณนั้น